บรรยากาศความคึกคักกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 โดยเฉพาะเกมรอบรองชนะเลิศระหว่าง อังกฤษ กับ เนเธอร์แลนด์ ที่จะมีขึ้นในคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคมนี้
สื่อกีฬาชั้นนำของอังกฤษ ต่างคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ “สิงโตคำราม” น่าจะยังคงใช้งานระบบหลังสามเหมือนเดิม
โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า แนวรับสามคนอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ ,จอห์น สโตนส์ และ มาร์ค เกฮี น่าจะได้ลงตัวจริงทั้งหมด
สำหรับ ลุค ชอว์ แนวรับสารพัดประโยชน์ที่ถูกดึงลงมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็คในช่วงท้ายเกมรอบ 8 ทีมนัดพบสวิตเซอร์แลนด์ ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ลงตัวจริงในเกมนี้เช่นกัน
ฟอร์แมตหลังสามนี้ พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีทได้ถึง 3 เกมติดต่อกันในศึกยูโร 2024
ตัวอย่าง ในเกมรอบ 8 ทีมนัดพบสวิตเซอร์แลนด์ แนวรับอังกฤษภายใต้ระบบหลังสาม สามารถปิดกั้นเกมรุกอันเฉียบคมของสวิตเซอร์แลนด์ได้อยู่หมัด ไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว
แผนการเล่นของ เนเธอร์แลนด์: หลุยส์ ฟัลกาล กุนซือ “กังหันลม” น่าจะเน้นเกมรุกมากกว่าเดิม หวังเจาะทะลุแนวรับ “สิงโตคำราม” ให้ได้
การแข่งขันคู่นี้ ถือเป็นเกมที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ทั้งสองทีมต่างมีศักยภาพและโอกาสคว้าชัยชนะได้อย่างสูสี แฟนบอลต้องห้ามพลาดชม!
นอกจากนี้ ยังมี ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับเกมนี้ ดังนี้
สถิติการพบกัน: อังกฤษและเนเธอร์แลนด์เคยพบกันมาแล้ว 21 ครั้ง อังกฤษชนะ 11 เสมอ 4 แพ้ 6
ผลงานในทัวร์นาเมนต์: อังกฤษเข้ารอบ 8 ทีมติดต่อกัน 5 ครั้งในศึกยูโร ส่วนเนเธอร์แลนด์กลับมาเล่นรอบสุดท้ายอีกครั้งหลังห่างหายไป 8 ปี
แรงจูงใจ: ทั้งสองทีมต่างต้องการคว้าแชมป์ยูโรสมัยแรก อังกฤษไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ ส่วนเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1988