ศึกแห่งศักดิ์ศรีในรอบก่อนรองชนะเลิศของยูโร 2024 จะระเบิดขึ้นในค่ำคืนนี้ โดย “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ จะต้องเผชิญหน้ากับ “พระจันทร์เสี้ยว” ตุรกี ที่สนามโอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งถือเป็นเกมที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะทั้งสองทีมต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน
เนเธอร์แลนด์: ทีมของโค้ชโรนัลด์ คูมัน กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง หลังจากออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์ด้วยฟอร์มที่ไม่น่าประทับใจนัก พวกเขาก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะเกมสุดท้ายที่ถล่มโรมาเนียไป 3-0 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเกมรุกที่ดุดันและหลากหลาย นำโดยดาวเด่นอย่าง โคดี้ กัคโป ที่กำลังลุ้นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ และ เมมฟิส เดอปาย ที่กำลังไล่ล่าสถิติการเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติ
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนของเนเธอร์แลนด์ยังคงเป็นเกมรับที่ยังไม่เหนียวแน่นพอ พวกเขาต้องระวังเกมโต้กลับที่รวดเร็วของตุรกีให้ดี หากพลาดท่าเสียประตูขึ้นมาก่อน อาจทำให้สถานการณ์เป็นเรื่องยากได้
ตุรกี: ถึงแม้จะไม่ใช่ทีมเต็งในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ตุรกีก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมที่ใครจะประมาทได้ง่ายๆ พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้อย่างเหนือความคาดหมาย ด้วยทีมเวิร์คที่แข็งแกร่งและนักเตะดาวรุ่งที่กำลังฉายแวว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของตุรกีในเกมนี้คือการขาดผู้เล่นตัวหลักหลายคนเนื่องจากการติดโทษแบนและอาการบาดเจ็บ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสมดุลของทีมได้
บทสรุป: เกมนี้คาดว่าจะเป็นเกมที่เปิดแลกกันอย่างสนุก เนื่องจากทั้งสองทีมมีสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุกเป็นหลัก เนเธอร์แลนด์อาจมีภาษีเหนือกว่าเล็กน้อยในเรื่องของคุณภาพผู้เล่น แต่ตุรกีก็มีทีเด็ดที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้เสมอ
สิ่งที่น่าจับตามอง:
การดวลกันของแนวรุก: กัคโป และ เดอปาย ของเนเธอร์แลนด์ จะต้องเจอกับบททดสอบสำคัญในการเจาะแนวรับของตุรกี
เกมรับของเนเธอร์แลนด์: พวกเขาจะสามารถรับมือกับเกมโต้กลับของตุรกีได้ดีแค่ไหน
ตัวสำรองของตุรกี: นักเตะที่ลงมาแทนตัวหลักที่ขาดหายไป จะสามารถทำผลงานได้ดีเพียงใด
ผลการแข่งขันที่คาด: เนเธอร์แลนด์ 2-1 ตุรกี
คาดการณ์ 11 ตัวจริง เนเธอร์แลนด์ พบ ตุรกี (6 กรกฎาคม 2567)
เนเธอร์แลนด์ (4-2-3-1):
ผู้รักษาประตู: บาร์ท แฟร์บรุคเค่น
กองหลัง: เดนเซล ดุมฟรีส์, สเตฟาน เดอ ฟราย, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้
กองกลาง: ทียานี่ ไรน์เดอร์ส, เยอร์ดี เชาเท่น
ตัวรุก: ดอนเยน มาเล่น, ชาฟี ซิมอนส์, โคดี้ กัคโป
กองหน้า: เมมฟิส เดอปาย
เหตุผล:
แฟร์บรุคเค่น: เป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งผู้รักษาประตู
ดุมฟรีส์, เดอ ฟราย, ฟาน ไดค์, อาเก้: แนวรับชุดหลักที่แข็งแกร่งและเล่นร่วมกันได้ดี
ไรน์เดอร์ส, เชาเท่น: คู่กองกลางที่สมดุล ทั้งเกมรับและเกมรุก
มาเล่น, ซิมอนส์, กัคโป: สามประสานแนวรุกที่กำลังทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ กัคโป ที่กำลังลุ้นดาวซัลโว
เดอปาย: กองหน้าตัวเป้าที่เป็นความหวังหลักในการทำประตู
ตุรกี (4-2-3-1):
ผู้รักษาประตู: แมร์ต กูน็อค
กองหลัง: เซนกิซ อุนเดอร์, โอซาน คาบัค, เมริห์ เดมิรัล, อูมุต เมราส
กองกลาง: ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, ออร์คุน ค็อคชู
ตัวรุก: เจงกิซ อุนเดอร์, อาร์ดา กูแลร์, เคร์เรม อัคตูร์โคกลู
กองหน้า: บูรัค ยิลมาซ
เหตุผล:
กูน็อค: ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม
อุนเดอร์, คาบัค, เดมิรัล, เมราส: แนวรับที่ดีที่สุดเท่าที่ตุรกีมีในตอนนี้
ชัลฮาโนกลู, ค็อคชู: สองกองกลางตัวหลักที่คุมจังหวะเกม
อุนเดอร์, กูแลร์, อัคตูร์โคกลู: ตัวรุกที่อันตรายและมีความสามารถในการสร้างสรรค์เกม
ยิลมาซ: กองหน้าตัวเก๋าที่มีประสบการณ์สูง