เอ็นโซ่ มาเรสก้า อดีตนักเตะและกุนซือชาวอิตาลี กลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เชลซี อย่างเป็นทางการ เขาเซ็นสัญญา 5 ปี พร้อมกับตัวเลือกขยายสัญญาอีก 1 ปี
มาเรสก้า เริ่มต้นอาชีพนักเตะของเขาในอิตาลีกับ เอซี มิลาน และ กายารี่ ก่อนจะย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เขาแขวนสตั๊ดในปี 2011 และเริ่มต้นเส้นทางการเป็นกุนซือ
ประสบการณ์การเป็นกุนซือ:
เริ่มต้นคุมทีมเยาวชนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
เคยคุมทีม อัสโคลี่, ปาร์ม่า, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ เลสเตอร์ ซิตี้
พาทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2023
เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาลี เป็นที่รู้จักในเรื่องสไตล์การคุมทีมที่เน้น เกมรุก และ การครองบอล เปรียบเสมือน โจเซป กวาร์ดิโอล่า เวอร์ชั่นอิตาลี
ลักษณะเด่นของสไตล์การคุมทีมมาเรสก้า:
การครองบอล: เน้นการส่งบอลสั้นแม่นยำ tiqui-taka คล้ายกับบาร์เซโลน่าของกวาร์ดิโอล่า
เกมรุกที่รวดเร็ว: ต้องการให้ผู้เล่นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว โจมตีแบบฉับไว ฉีกแนวรับคู่ต่อสู้
เพรสซิ่งสูง: บีบแย่งบอลจากคู่ต่อสู้ทันทีที่เสียบอล ไม่ให้คู่ต่อสู้ตั้งเกมได้
ความยืดหยุ่น: ปรับเปลี่ยนแผนการเล่นได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเกม
การให้โอกาสเยาวชน: กล้าให้โอกาสเด็กหนุ่มลงเล่น ดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมา
ผลงานที่ผ่านมา:
พาทีม เลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก และคว้าแชมป์ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2023
ทีมของเขามีสถิติการครองบอลเฉลี่ยสูง ยิงประตูได้มาก และเสียประตูน้อย
ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์และแฟนบอล สำหรับสไตล์การเล่นที่สนุกสนานและมีประสิทธิภาพ
ความท้าทาย:
เข้ารับงานคุมทีมใหญ่ครั้งแรกอย่าง เชลซี กดดันจากแฟนบอลที่คาดหวังผลงาน ต้องการพาทีมประสบความสำเร็จในลีกและยุโรป
มาเรสก้า เปรียบเสมือนม้ามืดในวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่ผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามอง
แฟนบอลสิงโตน้ำเงินคราม ต่างตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นผลงานของเขา และหวังว่าเขาจะพาทีมกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้ง